ยาสมุนไพรของสุรพรรณคลินิกมีหลักการในการรักษาโรคอย่างไร ?

2014-11-12 10:51:32


 

 

 

     ยาสมุนไพรของสุรพรรณคลินิกมีหลักการในการรักษาโรคอย่างไร ?

 

สุรพรรณคลินิกนำจุดเด่นของสมุนไพรทั้ง 3 ประเทศ ไทย จีน อินเดีย มาประยุกต์ใช้โดยการนำมาตั้งตำรับเพื่อรักษาโรคเรื้อรัง ต่าง ๆ ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มยา ต่าง ๆ ตามหน้าที่ได้ดังต่อไปนี้

 

          1.กลุ่มยาหัวหน้า

 

          2.กลุ่มยาช่วยฤทธิ์

 

          3.กลุ่มยาคุมฤทธิ์

 

          4.กลุ่มยากลบพิษ

 

          5.กลุ่มยานำทาง

 

     กลุ่มยานำทางข้างต้นจะนำตัวยาหลักเข้าสู่อวัยวะที่ต้องการรักษา เช่น โรคความดันโลหิตสูง ตรงนี้จะมีกลุ่มยานำทางเข้าสู่เซลล์หลอดเลือดเพื่อฟื้นฟูผนักเลือดให้แข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดีทำให้ความดันลดลงได้และหายจากโรคความดันโลหิตสูง ในขณะเดียวกันตัวยาอีกกลุ่มหนึ่งจะเข้าไปขจัดไขมันส่วนเกินในหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดไม่อุดตันหรือไม่เสียหาย ซึ่งจะเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันแล้วเกิดโรคหัวใจซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก

 

 

การใช้ยาสมุนไพรในสุรพรรณคลินิก

 

     สุรพรรณคลินิคจะไม่มีการนำสมุนไพรเชิงเดี่ยวมาใช้ เพราะการใช้สมุนไพรเชิงเดี่ยวติดต่อกันเป็นเวลานานจะส่งผลเสียต่อร่างกาย ในการตั้งตำรับยาหลายคนอาจสงสัยว่าส่วนใหญ่ขึ้นชื่อว่ายาสมุนไพรจะต้องผสมสเตียรอยด์ ทางการแพทย์ตะวันออกไม่มuความจำเป็นที่จะต้องนำสเตียรอยด์มาใช้ในการรักษาแต่อย่างใด ทั้งในแง่กฎหมายและในแง่สุขภาพ ทางสุรพรรณคลินิคได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายและเป็นแพทย์ที่ได้รับใบประกอบโรคศิลป์อย่างถูกต้อง

   

     สุรพรรณคลินิคให้ความสำคัญกับการรักษาโรคโดยตำรับยาสมุนไพรดังที่กล่าวมาข้างต้น ในส่วนของการผลิตยาสมุนไพรเพื่อการรักษา ได้มีการประยุกต์กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการเตรียมยาสมุนไพี โดยไม่ส่งผลให้สรรพคุณของตัวยาเปลี่ยนแปลง อีกทั้งได้พัฒนารูปแบบและบรรจุภัณฑ์ของตัวยาให้ง่ายต่อการรับประทานและพกพา นอกจากนี้วิธีการรักษาของสุรพรรณคลินิคยังได้ผสมผสาน ประยุกต์การใช้ศาสตร์แผนตะวันออกและแผนปัจจุบันเข้าด้วยกัน เช่น ต้องรู้จักโรคและสามารถวินิจฉัยได้อย่างถูกต้อง จะต้องมุ้งเน้นรักษาโรคโดยการดักหน้ามากกว่ารักษาโรคตามอาการ ในขณะเดียวกันยังได้นำเทคโนโลยีทางการแพทย์ในการเฝ้าระวังและติดตามผล อาทิ การนำผลการตรวจเลือด ตรวจน้ำตาล จากห้องแลปมาช่วยในการดูแลผู้ป่วย และเป็นการยืนยันผลการรักษาเพื่อให้ผู้ป่วยมีความมั่นใจว่าการเข้ารักษาเป็นในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน